วันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2551

กฏแห่งกรรม

มรรคมีองค์ ๘
๑. สัมมาทิฏฐิ ปัญญาอันเห็นชอบ คือเห็นอริยสัจ ๔.
๒. สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ คือ
ดำริจะออกจากกาม ๑.
ดำริในอันไม่พยาบาท ๑.
ดำริในอันไม่เบียดเบียน ๑.
๓. สัมมาวาจา เจรจาชอบ คือเว้นจากวจีทุจริต ๔.
๔. สัมมากัมมันตะ ทำการงานชอบคือเว้นจากกายทุจริต ๓
๕. สัมมาอาชีวะ เลี้ยงชีวิตชอบ คือเว้นจากความเลี้ยงชีวิตโดยทางที่ผิด.
๖. สัมมาวายามะ เพียรชอบ คือเพียรในที่ ๔ สถาน.
๗. สัมมาสติ ระลึกชอบ คือระลึกในสติปัฏฐาน ๔.
๘. สัมมาสมาธิ ตั้งใจไว้ชอบ คือเจริญฌานทั้ง ๔.
ในองค์มรรค ทั้ง ๘ นั้น สงเคราะห์เข้าในสิกขา ๓ ได้อย่างไรบ้าง ?
- เห็นชอบ ดำริชอบ สงเคราะห์เข้าในปัญญาสิกขา
- วาจาชอบ การงานชอบ เลี้ยงชีวิตชอบ สงเคราะห์เข้าใน สีลสิกขา
- เพียรชอบ ระลึกชอบ ตั้งใจชอบ สงเคราะห์เข้าในจิตตสิกขา
คำว่า มรรค แปลว่าอะไร หมายความว่าอย่างไร ?
แปลว่า หนทาง
หมายความว่า ปัญญาอันเห็นชอบว่าสิ่งนี้ทุกข์ สิ่งนี้เป็นเหตุให้ทุกข์เกิด สิ่งนี้ความดับทุกข์ สิ่งนี้ทางให้ถึงความดับทุกข์
เพราะเหตุไร จึงชื่อว่ามรรค มีเท่าไร อะไรบ้าง ?
เพราะเป็นวิธีที่จะให้บุคคลดำเนินไปสู่ที่สุดแห่งทุกข์ซึ่งเป็นสิ่งที่สาธุชนปรารถนายิ่งนัก มี ๘ คือ ๑.สัมมาทิฎฐิ ปัญญาอันเห็นชอบ
๒. สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ
๓. สัมมาวาจา เจรจาชอบ
๔. สัมมากัมมันตะ ทำการงานชอบ
๕. สัมมาอาชีวะ เลี้ยงชีวิตชอบ
๖. สัมมาวายามะ ความเพียรชอบ
๗. สัมมาสติ ระลึกชอบ
๘. สัมมาสมาธิ ตั้งใจชอบ
จงให้ความหมายของมรรคมีองค์ ๘ ทั้งหมดมาดู ?
สัมมาทิฏฐิ หมายถึง เห็นชอบ คือ เห็นอริยสัจ ๔
สัมมาสังกัปปะ หมายถึง ดำริชอบ คือ
ดำริออกจากกาม
ดำริในความไม่พยาบาท
ดำริในการไม่เบียดเบียน
สัมมาวาจา หมายถึง เจรจาชอบ คือ เว้นจากวจีทุจริต ๔
สัมมากัมมันตะ หมายถึง ทำการงานชอบ คือ เว้นจากกาย ทุจริต ๓
สัมมาอาชีวะ หมายถึง เลี้ยงชีวิตชอบ คือ เว้นจากการเลี้ยงชีวิตโดย ทางที่ผิด
สัมมาวายามะ หมายถึง เพียรชอบ คือ เพียรในที่ ๔ สถาน เช่น เพียรระวังบาปไม่ให้เกิดขึ้น เป็นต้น
สัมมาสติ หมายถึง ระลึกชอบ คือระลึกในสติปัฏฐานทั้ง ๔ คือ พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม เป็นอารมณ์
สัมมาสมาธิ หมายถึง ตั้งใจชอบ คือการเจริญฌาน ๔
ในธรรมวิภาคท่านกล่าวอะไรเป็นตัวมรรค และอะไรเป็นองค์มรรค ?
ท่านกล่าวปัญญาอันเห็นชอบว่าสิ่งนี้ทุกข์ สิ่งนี้เหตุให้เกิดทุกข์ สิ่งนี้ความดับทุกข์ สิ่งนี้ให้ถึงความดับทุกข์ ว่าเป็นตัวมรรค
ท่านกล่าวปัญญาอันเห็นชอบ ดำริชอบ เจรจาชอบ ทำการงานชอบ ว่าเป็นองค์มรรค
มรรค ๘ นั้น เป็นโลกิยะหรือโลกุตระ รู้ได้อย่างไร ?
เป็นได้ทั้งโลกิยะและโลกุตระ
รู้ได้ด้วยองค์มรรค ๘ เป็นสังขตธรรม เพราะสังขตธรรมท่านกำหนดไว้ว่า ได้แก่มรรค ๔ ผล ๓ ข้างต้น คือ ตั้งแต่อรหัตมรรคลงมายังเป็นธรรม ยังมีปัจจัยปรุงแต่งอยู่
ส่วนอรหัตผลเป็นอสังขตธรรม ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง เป็นโลกุตตระ
มรรคนั้นจะพึงกำจัดสังโยชน์ได้ด้วยวิธีเช่นไร ?
ด้วยวิธีกำหนดรู้ทุกขสัจ ละสมุทัยสัจ ทำให้แจ้งนิโรธสัจ และทำมรรคสัจ ให้เกิดขึ้น
มรรค ๘ กล่าวว่าเป็นมัชฌิมาปฏิปทาเป็นอย่างไร ทรงตรัสสอนใครเป็นครั้งแรก ?
เป็นข้อปฏิบัติอันเป็นท่ามกลาง ไม่หย่อนนักไม่ตึงนัก เพราะไม่เข้าใกล้ส่วนผิด อันลามก ๒ อย่าง คือ กามสุขัลลิกานุโยค และอัตตกิลมถานุโยค
ตรัสสอนแก่ พระภิกษุเบญจวัคคีย์เป็นครั้งแรก
จงจัดมรรค ๘ ลงในวิชชา และจรณะ มาดู ?
สัมมาทิฏฐิ และสัมมาสังกัปปะทั้ง ๒ นี้ จัดลงในวิชชา
สัมมาวาจาตลอดถึงสัมมาสมาธิ ทั้ง ๖ นี้จัดลงในจรณะ
อะไรเป็นตัวมรรค ?
ปัญญาอันเห็นชอบ ว่าสิ่งนี้ทุกข์ สิ่งนี้เหตุให้เกิดทุกข์ สิ่งนี้ความดับทุกข์ สิ่งนี้ให้ถึงความดับทุกข์ เป็นตัวมรรค
อะไรเป็นองค์แห่งมรรค ?
ปัญญาอันเห็นชอบ ดำริชอบ เจรจาชอบ ทำการงานชอบ เลี้ยงชีวิตชอบ ทำความเพียรชอบ ระลึกชอบ ตั้งใจชอบ เป็นองค์แห่งมรรค
สัมมาทิฏฐิ ในองค์มรรค กับ ในอริยสัจ ๔ ต่างกันอย่างไร ?
ต่างกัน คือ
สัมมาทิฏฐิ ในองค์มรรค เป็นดวงตา คือ เครื่องเห็น
สัมมาทิฏฐิ ในอริยสัจ ๔ เป็นธรรม คือ สิ่งที่ถูกเห็น
ผู้ประสงค์ ความสงบสุข จะเดินทางสายไหน จึงจะประสบดังประสงค์ ?
ต้องเดินทางมัชฌิมาปฏิปทา คือ อริยมรรคมีองค์ ๘
ธรรมที่ไพเราะในเบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุดนั้น คืออะไร ?
ธรรมที่ไพเราะในเบื้องต้น คือ ศีล
ธรรมที่ไพเราะในท่ามกลาง คือ สมาธิ
ธรรมที่ไพเราะในที่สุด คือ ปัญญา
หากปฏิบัติมรรค ๘ เพียงข้อใดข้อหนึ่งให้สมบูรณ์แล้วจะบรรลุมรรคผลได้หรือไม่ เพราะเหตุไร ?
ไม่ได้ เพราะในองค์มรรคเหล่านั้น ย่อมต้องอาศัยซึ่งกันและกัน เพราะว่ามรรคอันหนึ่ง ๆ ย่อมเป็นปัจจัยแก่องค์มรรคอันอื่นต่อไปตามลำดับ.
สังขตธรรมและอสังขตธรรม มีธรรมอะไรเป็นยอดเยี่ยม ?
สังขตธรรม มีมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ เป็นยอดเยี่ยม
อสังขตธรรม มีวิราคธรรม คือ พระนิพพานเป็นยอดเยี่ยม
มรรค คือ อะไร ทำไมจึงชื่อว่าอริยมรรค ?
มรรค คือ หนทาง เป็นทางอันประเสริฐ เป็นทางอันบุคคลผู้ปรารถนาพระนิพพานแสวงหา
ที่ชื่อว่า อริยมรรค เพราะเป็นทางอันประเสริฐ เป็นทางไกลจากข้าศึกคือกิเลส หรือ เป็นทางที่ทำบุคคลให้เป็นอริยะ
ธรรม ๘ ประการ มี สัมมาทิฏฐิ เป็นต้น มีชื่อเรียกว่าอะไรได้บ้าง ?
ธรรม ๘ ประการ มีสัมมาทิฏฐิ เป็นต้น มีชื่อเรียกว่า
มรรค เพราะเป็นทางอันบุคคล ผู้ปรารถนาพระนิพพานพึงแสวงหา
อัฎฐังคิกมรรค เพราะเป็นทางอันประกอบด้วยองค์ ๘
อริยาษฎางคิกมรรค เพราะเป็นทางอันประกอบ ด้วยองค์ ๘ อันประเสริฐหรือไกลจากข้าศึก คือ กิเลส
พรหมยาน เพราะเป็นยานเครื่องไปอันประเสริฐ
ธรรมยาน เพราะเป็นธรรมเครื่องไปดุจยาน
อนุตรสังคามวิชัย เพราะเป็นผู้ชนะสงคราม ไม่มีอื่นจะยิ่งไปกว่า
มัชฌิมาปฏิปทา เพราะเป็นข้อปฏิบัติเป็นกลาง
ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เพราะเป็นข้อปฏิบัติ เป็นเครื่องดำเนินถึงความดับทุกข์

ไม่มีความคิดเห็น: